วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แมวพันธุ์ขาวมณี



แมวขาวมณี





แมวขาวมณีอมตะความงามข้ามกาลเวลา (Cat magazine)

 ต้นกำเนิดขาวมณี

            ต้นกำเนิดแมวขาวมณีที่เป็นหลักฐานอย่างชัดเจนนั้นไม่มีบอกไว้ว่ามีขึ้นตั้งแต่เมื่อไร แต่เริ่มพบเห็นได้มากในตอนต้นยุครัตนโกสินทร์ของเรานี่เอง ข้อสันนิษฐานของผู้เขียนเกี่ยวกับแมวขาวมณีนั้นก็คือแมวไทยบ้านๆ ของเราหรือแมวที่ติดมากับเรือสำเภาจีน ที่พ่อค้าขาวจีนที่เดินทางเข้ามาค้าขายในสยามประเทศสมัยนั้นเลี้ยงไว้บนเรือเพื่อจับหนู แต่มีความพิการของต่อมสร้างเม็ดสี กล่าวคือต่อมสร้างเม็ดสีไม่อาจใช้การได้ ไม่สามารถสร้างสีสันหรือลวดลายได้ จึงทำให้ขนแมวเป็นสีขาวทั้งตัว แต่ลักษณะด้อย ดังกล่าวนั้นนั้นกลับกลายเป็นจุดเด่นที่ทำให้คนไทยตั้งแต่ตอนต้นสมัยรัตนโกสินทร์นิยมเลี้ยงกันเรื่อยมานับแต่บัดนั้น เพราะสีขาวนั้นสำหรับคนไทยเป็นสีที่สะอาดและเป็นมงคล จึงแพร่หลายและได้รับความนิยมสืบเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งแมวขาวมณีนั้นเป็นแมวที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดปรานมากเป็นพิเศษถึงขั้นส่งเสริมให้มีการเลี้ยงอย่างแพร่หลายทั้งในวัง และข้าราชบริหาร ขุนนางน้อยใหญ่




 ลักษณะของแมวขาวมณี

            เรื่องที่เด่นและเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสนใจเกี่ยวกับแมวขาวมณี นอกจากสีขนที่ขาวสะอาดแล้ว คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากสีของนัยน์ตาแมวแมวขาวมณีนั้นมีทั้งตาสีฟ้า สีเหลืองอำพันและตาสองสี คือ ฟ้าข้าวหนึ่งและเหลืองอีกข้างหนึ่ง โดยแมวที่มีตาสองสีนั้นเกิดจากพ่อและแม่แมวมีสีนัยน์ตาที่ต่างกัน ทำให้ลูกที่เกิดมาในครอกหนึ่ง ๆ นั้นมีโอกาสจะมีลักษณะตาสองสีหลุดออกมาบ้าง ซึ่งตาสองสีนี้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้เลี้ยงแมวเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่าตาสีเดียว จนทำให้มีผลต่อราคาค่าตัวของแมวขาวมณีที่ดีตาสองสีเป็นเท่าทวีคูณ ซึ่งราคาที่ซื้อขายกันจริงที่ผู้เขียนเคยทราบมาคือหลายหมื่นบาท

            ในการประกวดนั้น จากประสบการณ์ของผู้เขียน และการแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้คร่ำหวอดในวงการการประกวดแมวไทยมานานนั้น ที่จริงแล้ว แมวตาสองสีจะได้เปรียบแมวตาสีเดียวนิดหน่อยครับ ในกรณีที่สีตาเสมอกัน คือมีความเข้มชัดเจนของสีลูกนัยน์ตาเท่าๆ กัน แมวตาสองสีจะชนะครับ ถ้าส่วนอื่นสมบูรณ์เท่าๆ กัน แต่ถ้าแมวตาสองสีเป็นโทนสีที่ซีด ไม่เข้มสดแมวตาสองสีก็แพ้แมวตาสีเดียวที่มีตาสีฟ้าเข้มหรือตาสีเหลืองสดใสได้ครับ และเรื่องที่สำคัญที่ผู้นิยมแมวขาวมณีบางท่านอาจจะไม่เคยรู้เลยก็คือ แมวขาวมณีตาสีฟ้านั้นมีโอกาสที่จะหูจะหนวกสูงมาก โดยจะเป็นทั้งสองข้างลองสังเกตได้จากเสียงร้องที่ดังผิดปกติของเขานั่นเอง ส่วนแมวตาสองสีก็จะมีหูหนวกหนึ่งข้างคือข้างที่ลูกนัยน์ตาเป็นสีฟ้านั่นเอง

  จุดเด่นของแมวขาวมณี

            มีขนที่สั้นเกรียนและนุ่มลื่น เป็นสีขาวปลอดทั้งตัวไม่มีสีอื่นใดเจือปน

            หัวต้องใหญ่กลมเป็นเหมือนรูปหัวใจ ในบรรดาแมวไทย แมวขาวมณีหัวใหญ่ที่สุด

            หางยาว ปลายหางต้องแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กลงไปถึงตอนปลาย


 แมวขาวมณีกับวงการแมวในระดับสากล

            ตอนนี้แมวขาวมณีของไทยเริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในระดับโลก โดยแหล่งใหญ่ที่สุดในตอนนี้คือประเทศอังกฤษและประเทศในแถบยุโรป ซึ่งมีสมาคมแมวที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลคือ TICA นั้นได้อนุญาตให้ขึ้นทะเบียนแมวขาวมณีเป็นแมวพันธุ์แท้ และจัดให้มีการประกวดในระดับสากลแล้ว ส่วนอีกค่ายที่มีอิทธิพลในวงการแมวโลกก็คือ CFA นั้นก็เปิดช่องว่าถ้ามีฟาร์ม 5 แห่ง แจ้งเสนอชื่อเป็นผู้เพาะพันธุ์แมวขาวมณี เขาก็จะเปิดโอกาสให้เราขึ้นทะเบียน และมีโอกาสที่จะบรรจุลงในสายพันธุ์แมวที่เข้าร่วมประกวดได้เช่นกัน

             โดยแมวขาวมณีจากเมืองไทยตอนนี้กำลังเริ่มเป็นที่นิยมจากขาวต่างชาติมาก ผู้เขียนมองว่าตรงนี้เป็นโอกาสที่คนไทยที่นิยมแมวและเลี้ยงแมว น่าจะหันมามองและสนใจศึกษาแมวขาวมณีอย่างจริงจังกันสักที เพราะนอกจากรักแมว ได้มีความสุขกับการเลี้ยงแมวแล้ว ก็อาจจะมีรายได้เสริมจากการเลี้ยงแมวเพิ่มมาอีกทางหนึ่งก็ได้นะครับ อย่างนี้ผู้เขียนเรียกว่าสุขคูณสองครับ



แมววิเชียรมาศ

           "แมววิเชียรมาศเป็นแมวไทยชนิดแรกที่ชาวต่างชาติรู้จักและตั้งชื่อว่า "Siamese Cat" หรือ “แมวสยาม” เป็นแมวไทยต้นตระกูล ที่นำไปปรับปรุงพันธุ์ได้แมวไทยอีกหลายสายพันธุ์ แมววิเชียรมาศเป็นแมวไทยโบราณ ในสมุดข่อยยกย่องให้เป็นแมวให้ลาภ ใครเลี้ยงไว้จะได้เป็นขุนนาง  ชื่อแมววิเชียรมาศ มีความหมายว่า "เพชรแห่งดวงจันทร์" หรือ "Moon Diamond" บางตำราก็เรียก "แมวแก้ว"

       

ลักษณะประจำพันธุ์

           แมววิเชียรมาศ เป็นแมวที่มีแต้มสีน้ำตาลเข้มอยู่ 9 จุดบนตัว ได้แก่ ที่ปลายเท้าทั้งสี่ ปลายหูทั้งสอง ปลายหาง บนจมูก และที่อวัยวะเพศ เมื่อตอนยังเล็กจุดจะไม่ใหญ่มาก ลำตัวเป็นสีครีม แต่จุดจะขยายใหญ่ขึ้นตามอายุจนมีสีน้ำตาลเกือบทั้งหมด พันธุ์แท้จะต้องมีนัยน์ตาสีฟ้าเป็นประกายสดใส 

           ขณะยังเป็นลูกแมวอายุน้อย สีขน0tออกสีครีมอ่อนๆ พอโตขึ้น สีจะเข้มขึ้นเป็นสีน้ำตาล (สีลูกกวาง) เป็นแมวพันธุ์แท้ตลอดกาล ไม่ว่าจะไปผสมกับแมวพันธุ์อะไรก็ตาม จะได้สีแต้มตามแบบ แต่รูปร่างไม่สง่างามเท่า และนิสัยต่างๆ จะไม่ตกทอดไปสู่ แมวลูกผสมด้วย เมื่ออายุมากขึ้นสีสันต่างๆ จะเข้มขึ้นตามลำดับ ในต่างประเทศ ได้นำ แมววิเชียรมาศนี้ ไปผสมกับแมวไทยบางพันธุ์ ได้แมวที่มีแต้มสีอื่นๆอีกหลายสี เช่น แต้มสีเทา สีแดง ลายสีกลีบบัว  

            ตา : นัยน์ตาเป็นสีฟ้าเปล่งประกายสดใส ในตอนที่ยังเล็กๆ จะมีขนสีครีมอ่อนๆ แต่ พอโตขึ้นขนจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหรือสีลูกกวาง ขนาดก็พอๆกับแมวไทยโดยทั่วๆไป ดวง ตาสีฟ้าชัดเจนนั้นจะมีลักษณะเหมือนตุ๊กตาจีน คือเอียงเข้าหากันลงไปทางปลายจมูก

            ขา : ช่วงขายางร่างระหง เท้าทั้ง 4 จะดูบอบบาง ด้านหลังจะยาวและยกสูงกว่าด้าน หน้าเล็กน้อย รูปเท้าจะเรียวแต่ฝ่าเท้าอวบ

            หาง : หางยาวเรียวลักษณะคล้ายหางเสือ แต้มตรงหางจะมีสีเข้มจากปลายหาง และ เริ่มจางลงเมื่อขึ้นมาถึงโคนสะโพd

            หัว : รูปศีรษะยาวได้สัดส่วนที่เหมาะสม ส่วนที่อยู่ตรงแนวระดับตาจะเป็นส่วนที่กว้าง ที่สุดจึงมองดูแล้วโหนก และจะค่อยๆแคบลงมาจนถึงปลายปากหรือคาง

            หู : ใบหูใหญ่ตั้งชัน ปลายใบหูจะค่อนข้างแหลม โคนหูกว้าง

            ขน : ลำตัวมีสีนวลหรือสีครีม แต่จะเข้มขึ้นบริเวณแผ่นหลัง ลักษณะของสีนั้นจะเข้ม ขึ้นตามอายุ เมื่ออายุยังน้อยๆสีก็จะเป็นสีครีมอ่อนๆ พออายุเริ่มมากขึ้นก็เข้มขึ้นเรื่อยๆจน ดูเป็นสีน้ำตาลทางใบหน้าจะเด่นมาก เพราะแต้มที่จุดอยู่ตรงปลายจมูกนั้นจะกว้างออกครอบ ทั่วบริเวณเหมือนกับสวมหน้ากากไว้ เส้นขนที่ปกคลุมมีลักษณะสั้น แต่เป็นเส้นละเอียดอ่อนนุ่ม และดกหนาแน่นมาก

           ลักษณะที่เป็นข้อด้อยของพันธุ์

           ขนยาวเกินไป มีแต้มสีไม่ครบทั้ง 9 แห่ง แต้มสีอื่นที่ไม่ใช่สีน้ำตาลไหม้ นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่นๆ ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นเกินไป (เมื่อยืนขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว) ของขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี

อาหารและการเลี้ยงดู

           ตอนกลางวันควรให้แมวอยู่อย่างอิสระในบ้านหรือนอกบ้านก็ได้ ตอนกลางคืนควรขังรวมกันไว้ในกรง กรงแมวต้องมีขนาดใหญ่ การเลี้ยงแมวในบ้าน แมวจะชอบขับถ่ายในที่ๆมีกลิ่นเหม็นหรือเป็นจุดอับ หากต้องการให้แมวขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง ควรเตรียมกระบะทรายหรือขี้เถ้าไว้ในบ้านด้วย สำหรับแมวตัวผู้ที่โตแล้ว จะขับถ่ายไม่เลือกที่
           ส่วนอาหาร แมววิเชียรมาศ เป็นสัตว์กินเนื้อ เป็นนักล่า ดังนั้น อาหารที่ให้ต้องมีคุณค่าทางสารอาหารครบถ้วน ควรให้วันละ 2 มื้อ คือ เช้า และเย็น ส่วนใหญ่จะให้ข้าวคลุกปลาทู ซึ่งมีโปรตีน 20 % ปัจจุบันนิยมให้อาหารสำเร็จรูปมากกว่า สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือน้ำสะอาดที่ต้องใส่ภาชนะตั้งไว้




แมวสีสวาด



แมวสีสวาด (Silver blue) หรือแมวโคราช (Korat cat)

 ประวัติ
          แมวพันธุ์นี้มีชื่อเรียกหลายชื่อ คือ แมวโคราช แมวมาเลศ หรือแมวดอกเลา แมวโคราชเป็นแมวที่พบที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา หรือเรารู้จักกันในนามว่าโคราช มีหลักฐานบันทึกเกี่ยวกับแมวโคราชในสมุดข่อย (Smud Khoi of Cats) ที่เขียนขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1350-1767 หรือประมาณ พ.ศ. 1893-2310 ในบันทึกได้กล่าวถึงแมวที่ให้โชคลาภที่ดี 17 ตัวของประเทศไทย รวมถึงแมวโคราชด้วย

          ปัจจุบันสมุดข่อยนี้ถูกเก็บไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร ชื่อแมวโคราช เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 5 โดยใช้แหล่งกำเนิดของแมวเป็นชื่อเรียกพันธุ์แมว มีเรื่องเล่ามากมายหรือเป็นตำนานเล่าขานเกี่ยวกับแมวโคราช รวมถึงตำนานพื้นบ้านที่กล่าวถึงการที่แมวโคราชมีหางหงิกงอ (kinks) มากเท่าไหร่จะมีโชคลาภมากเท่านั้น (แม้ว่าลักษณะหางหงิกงอไม่ใช่มาตรฐานพันธุ์ตากหลักของ CFA ก็ตาม) แต่คนไทยจะเรียกแมวโคราชอีกชื่อว่า แมวสีสวาด (Si-Sawat cat (see-sa-what)

           ขณะที่คนไทยบางกลุ่มจะเรียกแมวโคราชว่า แมวสีดอกเลา เนื่องจากแมวเพศผู้มีสีเหมือนดอกเลา (Dok Lao) โดยจะต้องมีขนเรียบ ที่โคนขนจะมีสีขุ่นๆ เทา ในขณะที่ส่วนปลายมีสีเงิน เป็นประกายคล้ายหยดน้ำค้างบนใบบัว (dewdrops on the lotus leaf) หรือเหมือนคนผมหงอก

          ทั้งนี้ แมวโคราชได้ถูกนำไปเลี้ยงในสหรัฐอเมริการโดย Cedar Glen Cattery ในรัฐโอเรกอน โดยได้รับมาจากพี่น้องชื่อ นารา (Nara) และ ดารา (Darra) ในวันที่ 12 มิถุนายน ปี ค.ศ. 1959 (พ.ศ.2502) ประมาณเดือนมีนาคม ปี พ.ศ.2509 นักผสมพันธุ์แมวโคราชและแมวไทย (วิเชียรมาศ) ชาวรัฐแมรีแลนด์ ได้นำแมวโคราชประกวดในงานประจำปีและ ได้รับรางวัลชนะเลิศและเป็นที่รู้จัก 

 ลักษณะสีขน
          ขนสั้น สีสวาด (silver blue) ทั่วทั้งตัวและเป็นสีสวาดตั้งแต่เกิดจนตาย

 ลักษณะของส่วนหัว

          หัวเมื่อดูจากด้านหน้าจะเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน หูตั้ง ในแมวตัวผู้หน้าผากมีรอยหยักทำให้เป็นรูปหัวใจเด่นชัดมากขึ้น หูใหญ่ตั้ง ปลายหูมน โคนหูใหญ่ ผิวหนังที่บริเวณจมูกและริมฝีปากสีเงิน หรือม่วงอ่อน

 ลักษณะของนัยน์ตา
          นัยน์ตาสีเขียวสดใสเป็นประกาย หรือสีเหลืองอำพัน ขณะยังเป็นลูกแมวตาจะเป็นสีฟ้า เมื่อโตขึ้นจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด และเมื่อเติบโตเต็มที่ตาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวใบไม้ หรือสีเหลืองอำพัน

 ลักษณะของหาง
          หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว

ลักษณะที่เป็นข้อด้อยของพันธุ์
          ขนยาวเกินไป มีสีอืนปน นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นมากเกินไป (เมื่อยืดขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว) หางขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


8 ความคิดเห็น:

  1. มีแมวพันธุ์ดำมณีปะ?? ฮ่าๆๆๆ

    ตอบลบ
  2. เดี๋ยวเอาไว้ให้เจ้าของบล็อกได้ สามีเป็นสัตว์แพทย์ก่อนนะ จะผสมพันธุ์ให้ดู แหะๆๆ !! ปล. (ผสมพันธุ์แมวนะ)

    ตอบลบ
  3. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  4. แมวสายพันธุ์นี้น่าเลี้ยงนะคะ

    ตอบลบ
  5. ใช่ๆๆ ตาสวยมากมองแล้วหลงเสน่ห์

    ตอบลบ
  6. เป็นตาเอามาคั่วกินแท้ล่ะ ไปถ่ะแม่ะไปหาแมวมาคั่วสู

    ตอบลบ
  7. อร๊อยย >< ผู้บ่าวกินแมว 55++

    ตอบลบ
  8. T-SHOREtto Titanium Hammer
    T-SHOREtto micro touch titanium trim Titanium Hammer with Chrome Finish. The t-shoulder titanium steel extension and handle of the Hammer titanium nose hoop is designed to provide more grip, while giving you titanium wedding bands the maximum thunder titanium lights

    ตอบลบ